“อยากให้ลูกมีวัยเด็กแบบสบายๆ” ความคิดนี้ออกจะแตกต่างจากวิถีชีวิตครอบครัวในสังคมเมืองที่แข่งขันสูง บ้านอยู่ในตึกสูงสี่เหลี่ยมแคบๆ และต้องใช้ชีวิตเร่งรีบในเมืองไม่เว้นแม้แต่เด็กเล็ก ๆ แต่ต้องยอมรับว่ายังมีครอบครัวรุ่นใหม่ที่มองหาวิถีชีวิตช้า ๆ สบายๆ ให้ลูกเติบโตแบบมีโอกาสได้ซึมซับธรรมชาติและทำสิ่งที่ชอบ เหมือนเช่นครอบครัวนี้ที่ตัวคุณพ่อเคยอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ในโตเกียวในห้องที่เต็มไปด้วยความอับชื้นและรู้สึกอึดอัด จึงตั้งใจว่าหากมีครอบครัวอยากจะกลับไปอยู่บ้านเกิดในชนบทที่สงบสุขบนไซต์ขนาดใหญ่ ให้ลูกได้วิ่งเล่นในที่ที่กว้างๆ แล้วฝันของเขาก็เป็นจริงกับบ้านที่เหมือนลานตั้งแคมป์หลังนี้
บ้านหลังคาจั่วเฉลียงและสนามกว้าง
โจทย์หลักของครอบครัวนี้คือ ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นสกีในฤดูหนาว หรือตั้งแคมป์ซึ่งสามารถไปได้ในทุกฤดู พวกเขามักจะทำบาร์บีคิวแบบสบายๆ ให้เด็กสามคนช่วยกันอย่างสนุกสนาน และอยากให้บ้านมีบรรยากาศแบบนั้น ทีมงานจึงจินตนาการถึงบ้านที่ภายในเป็นเหมือนภายนอก ส่วนภายนอกเป็นเหมือนภายใน เพื่อให้ครอบครัวนี้สามารถอยู่ได้ทุกวันด้วยความรู้สึกที่กระตือรือร้นและเปิดกว้าง ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นบ้านที่ลดขนาดลงให้เหลือพื้นที่ทำสนามหญ้ากว้างๆ มีพื้นที่ให้ทำอาหารเหมือนตั้งแคมป์ ซึ่งเป็นโบนัสที่ทำให้ที่นี่เป็นมากกว่าบ้าน ใกล้กันยังมีสวนของคุณปู่คุณย่า เด็กๆ ก็สนุกกับการเก็บเกี่ยวผักที่ปู่ย่าตายายปลูกเอง
ส่วนที่สำคัญอันดับแรกของบ้าน คือ เฉลียงบ้านซึ่งเป็นพื้นที่ใต้ชายคาที่เชื่อมระหว่างบ้านกับสวน ช่วยเพิ่มความเพลิดเพลินให้กับกิจกรรมกลางแจ้ง จะเห็นว่าสถาปนิกปรับพื้นเฉลียงและสนามหญ้าให้ใกล้เคียงกันเท่าที่จะเป็นไปได้ให้พื้นที่สนามหญ้า เฉลียง ชิดกับพื้นบ้านมากขึ้น ทำให้เกิดการเชื่อมต่อที่เป็นธรรมชาติ สามารถเดินจากสนามมาเฉลียงแล้วเข้าถึงห้องรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่นได้โดยตรง บางครั้งเด็ก ๆ ก็จะถอดรองเท้าที่เฉลียงแล้วเดินเท้าเปล่าเข้าบ้านไปได้เลย
เฉลียงที่กว้างขวางและมีหลังคากึ่งโปร่งแสงคลุม ทำให้สามารถออกมานั่งใช้พื้นที่ได้แม้ในวันที่ฝนตกและมีความสว่างเพียงพอ กลายเป็นสนามเด็กเล่นที่น่าสนุก มีม้าเปลญวน นั่งที่ทำขึ้นอย่างดี เชิญชวนให้ออกจากตัวบ้านมาพักผ่อนและได้ออกมาทักทายเพื่อนบ้านที่ผ่านไปมาด้วย
ภายในบ้านออกแบบโดยคำนึงถึงการปฏิสัมพันธ์ที่ชิดใกล้ในครอบครัว จึงจัดแปลนแบบ open plan มีพาร์ติชั่นไม่กี่ห้องแบ่งห้องอย่างหลวมๆ พื้นเพดานที่กั้นระหว่างชั้นก็ถูกลดลงเจาะเชื่อมแนวตั้งให้มองเห็นระหว่างชั้นได้ ไม่ว่าเด็กจะอยู่ที่ไหนในบ้านก็จะได้ยินเสียงคุณพ่อคุณแม่เรียกหา ห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารก็เปิดออกสู่สวน สร้างความรู้สึกต่อเนื่องทั้งภายในและภายนอก
ชั้นล่างสุดลึกลงไปใต้ดินเป็นห้องนอนแยกออกมาจากพื้นที่ใช้งานสาธารณะ เพื่อให้ความรู้สึกสงบผ่อนคลายไม่ถูกรบกวนยามพักผ่อน ห้องนี้ประตูบานเลื่อนกระจกฝ้าทำหน้าที่เปิด-ปิดแต่ยังสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวภายในลางๆ ได้
จากห้องนอนขึ้นมาไม่กี่ขั้นบันไดจะพบกับมุมนั่งเล่นสไตล์ญี่ปุ่น ปูด้วยเสื้อทาทามิสีอ่อนๆ สำหรับนั่งเล่น รับแขก หรือมีพิธีชงชา โซนนี้มีราวผ้าม่านสีเอิร์ธโทนเป็นตัวช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวเมื่อต้องการ
จากบันไดเหล็กที่มีชานพักลดความชัน ให้เด็ก ๆ นั่งเล่นได้สบายๆ ไต่ระดับขึ้นมาจะเป็นการออกแบบพื้นที่แบบเล่นระดับที่แบ่งซอยพื้นที่เป็นลำดับชั้นที่ไม่สูงมาก เชื่อมต่อกับชานบันไดเป็นมุมนั่งทำงาน ทำการบ้านอ่านหนังสือ จากนั้นจะมีห้องนอน ห้องเด็กเล่น ห้องนอน ที่มีช่องว่างมองเห็นข้างล่างได้ ประตูยังบานเลื่อนไม้ยังเปิดออกเชื่อมต่อระเบียงนั่งเล่นได้ อยากเปิดกว้างเชื่อมต่อพื้นที่ให้ใหญ่ขึ้น หรือปิดก็เลือกได้ตามสถานการณ์
ห้องเด็ก
ในบ้านดั้งเดิมของญี่ปุ่นจะมีการจัดพื้นที่อย่างหลวมๆ โดยแต่ละห้องจะจัดให้โล่งๆ ไม่ค่อยมีเฟอร์นิเจอร์มาก มักจะใช้ปรับเปลี่ยนการใช้งานแต่ละห้องได้หลากหลาย เช่น ห้องหนึ่งอาจใช้นั่งเล่น ทานข้าวตอนกลางวัน แต่จัดเป็นห้องนอนในตอนกลางคืน โดยมีประตูบานเลื่อนซ่อนตู้เก็บชุดเครื่องนอนเอาไว้ที่ผนัง ส่วนประตูห้องจะใช้ประตูโชจิ ซึ่งเป็นประตูบานเลื่อนกรุกระดาษสา ทำหน้าที่ปิดพื้นที่เป็นส่วนตัวหรือจะเปิดเชื่อมต่อพื้นที่ห้องให้ต่อเนื่องเป็นห้องขนาดใหญ่ห้องเดียวก็ได้
บ้านเดี่ยวโคราช: บ้านมีเฉลียง สนามกว้าง เหมือนได้ไปแคมป์ปิ้งทุกวัน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://homes-realestate.com/