จัดฟันเด็ก: เคลือบฟลูออไรด์วานิชดียังไง เหมาะกับเด็กวัยไหนบ้าง

[siritidaphon]

วันนี้เราจะมาตอบทุกคำถามเกี่ยวกับการเคลือบฟลูออไรด์วานิชว่ามีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร เหมาะกับเด็กวัยไหนบ้าง รวมถึงข้อควรปฏิบัติในการเคลือบฟันที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้ ถ้าพร้อมแล้วตามมาอ่านกันได้เลย


ตอบทุกคำถามเกี่ยวกับการเคลือบฟลูออไรด์วานิช


1. การเคลือบฟลูออไรด์วานิชคืออะไร?

เป็นวิธีการรักษาฟันน้ำนมให้แข็งแรงด้วยการใช้สารฟลูออไรด์เคลือบที่ผิวฟัน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้โครงสร้างฟัน ทำให้ฟันทนทานต่อกรดที่เกิดจากแบคทีเรียสะสมในช่องปาก อีกทั้งช่วยชะลอฟันผุระยะเริ่มแรก และลดโอกาสเกิดรอยผุใหม่อีกด้วย


2. ฟันแบบไหนที่ควรเคลือบ?

    ฟันที่หัก, บิ่น หรือแตกจากอุบัติเหตุ หรือฟันที่มีลักษณะดังกล่าวมาตั้งแต่เกิด
    ฟันที่มีสีเหลือง หรือดำ อันเนื่องมาจากพฤติกรรมเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการกัดฟันด้วยความเคยชินจนฟันสึกกร่อน, การทานอาหารหรือขนมที่มีฤทธิ์เป็นกรด, ละเลยการทำความสะอาดช่องปากอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือทุกครั้งหลังมื้ออาหารอย่างน้อย 30 นาที รวมถึงการทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการปะทะบริเวณใบหน้า เช่น ฟุตบอล, บาสเกตบอล, วอลเลย์บอล เป็นต้น


3. เหมาะกับเด็กวัยไหนบ้าง?

การเคลือบประเภทนี้เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี และเด็กที่มีจุดสีขาวบนผิวฟันซึ่งเป็นสัญญาณของฟันผุ เพื่อความปลอดภัยทางเราแนะนำให้เคลือบฟลูออไรด์ตั้งแต่อายุ 3 ปีเป็นต้นไป เนื่องจากเด็กรู้จักวิธีการบ้วนปากแล้ว เพราะขั้นตอนการเคลือบฟลูออไรด์จะต้องบ้วนน้ำลายออกเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กได้รับฟลูออไรด์เกินขนาด


4. ต้องงดอะไรก่อนเคลือบฟันหรือไม่?

ไม่จำเป็นครับ หากลูกของคุณไม่ได้เป็นเด็กที่อาเจียนง่าย สามารถทานอาหารได้ตามปกติแต่งดนมที่มีฤทธิ์เป็นกรด รวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอก่อนมาเคลือบฟันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ตามหลักทั่วไปอย่าลืมแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดช่องปากก่อนพบคุณหมอทุกครั้งนะครับ


5. ขั้นตอนยุ่งยากมั้ย? ใช้เวลานานรึเปล่า?

ไม่ยุ่งยากเลยครับ เพียงแค่คุณหมอฟันจะแปรงหรือขัดฟันของเด็กจนแห้งสะอาด จากนั้นใช้พู่กันทาฟลูออไรด์วานิชบาง ๆ เพื่อให้เกิดผลึกแคลเซียมเคลือบฟัน ทาให้ทั่วบริเวณผิวฟัน โดยเน้นที่จุดผุสีขาว, ฟันด้านบดเคี้ยว และฟันด้านประชิดในซอกฟันอย่างระวัง โดยที่คุณหมอจะต้องระมัดระวังไม่ให้ฟลูออไรด์โดนเหงือก เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้


6. ปฏิบัติตัวอย่างไรหลังจากเคลือบฟันเสร็จ?

หลังจากเคลือบฟันเสร็จควรงดน้ำและอาหารเป็นเวลา 1 ชั่วโมง งดทานอาหารแข็งและอาหารที่ต้องเคี้ยว (ทานได้แต่อาหารอ่อน ๆ ) เป็นเวลา 2 ชั่วโมง นอกจากนี้งดแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นเวลา 1 วัน เพื่อให้ฟลูออไรด์วานิชทำงานอย่างเต็มที่ หากพบคราบเหลืองที่ขึ้นมาหลังจากการเคลือบ ไม่ต้องตกใจนะครับ เพราะคราบเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 2-3 วัน

หากพบว่าเด็กมีอาการระคายเคืองหรือแพ้ แนะนำให้บ้วนด้วยน้ำสะอาดตามมาก ๆ แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น ให้รีบพาลูกมาพบคุณหมอทันที


7. ข้อดีของการเคลือบฟันแบบวานิช

อย่างแรกเลยคือช่วยให้ฟันแข็งแรง ทนต่อการกัดกร่อนของแบคทีเรียที่มาจากแป้งและน้ำตาลในอาหารที่ลูกทานแต่ละมื้อ ช่วยหยุดการลุกลามของปัญหาฟันผุ หากใช้ฟลูออไรด์ในระยะแรกที่ฟันผุ นอกจากนี้ยังช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในช่องปาก โดยการเสริมสร้างแบคทีเรียชนิดดี และยับยั้งแบคทีเรียชนิดไม่ดีไม่ให้กัดกร่อนสารเคลือบฟัน


8. เด็กทุกคนต้องเคลือบฟันมั้ย?

จำเป็นต้องเคลือบทุกคนครับ เนื่องจากฟันของเด็กเป็นฟันน้ำนมซึ่งมีสารเคลือบฟันแข็งแรงน้อยกว่าสารเคลือบฟันของฟันแท้แท้ จึงเสี่ยงต่อปัญหาฟันง่ายกว่าวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ การทำความสะอาดช่องปากด้วยการแปรงฟันอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ หากเทียบกับพฤติกรรมเสี่ยงที่เด็กทำเป็นประจำ เพราะเด็กส่วนใหญ่ในวัยนี้ชื่นชอบอาหารและขนมที่มีรสหวาน รวมทั้งติดเล่นหรือดูการ์ตูนจนละเลยการทำความสะอาดช่องปาก


9. ควรเคลือบฟันบ่อยแค่ไหน?

หากลูกไม่มีปัญหาเสี่ยงฟันผุอาจไม่จำเป็นต้องเคลือบทุก 6 เดือนก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของคุณหมอด้วยครับ โดยแบ่งเป็น 3 กรณี ดังนี้

    ควรเคลือบฟลูออไรด์ 1 ครั้ง/1 ปี สำหรับเด็กที่มีความเสี่ยงระดับต่ำ
    ควรเคลือบฟลูออไรด์ 1 ครั้ง/6 เดือน สำหรับเด็กที่มีความเสี่ยงระดับปานกลาง
    ควรเคลือบฟลูออไรด์ 1 ครั้ง/3 เดือน สำหรับเด็กที่มีความเสี่ยงระดับสูง


10. เคลือบฟลูออไรด์อันตรายมั้ย

การเคลือบฟลูออไรด์อาจเกิดพิษแบบเฉียบพลันจนเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ หากได้รับเกินขนาด หรือเด็กยังไม่มีทักษะการบ้วน ดังนั้นหากเด็กกลืนฟลูออไรด์ลงคอมากเกินไป อาจก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และอาจเกิดจุดบนฟันที่กำลังงอกขึ้น ดังนั้นจึงควรปรึกษาหมอฟันทุกครั้งที่เคลือบฟลูออไรด์


11. เคลือบฟลูออไรด์วานิชเองที่บ้านได้มั้ย

ไม่ได้เด็ดขาดครับ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่เด็กจะได้รับฟลูออไรด์เกินขนาดจากการเคลือบฟลูออไรด์ โดยปกติแล้วการเคลือบจะต้องทำโดยหมอฟันเด็กที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มากมายตามสถานพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน แต่หากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนซื้อมาทาให้ลูกเองแล้วก็อาจเกิดการผิดพลาด จนเป็นอันตรายต่อตัวลูกน้อยจากภาวะเป็นพิษแบบเฉียบพลัน หรืออาจทำให้ฟันตกกระจากการได้รับฟลูออไรด์เกินขนาดในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นอาการเป็นพิษจากการรับฟลูออไรด์เกินขนาด, อาการระคายเคืองช่องปากจากฤทธิ์ฟลูออไรด์ รวมถึงอันตรายที่เกิดจากฟลูออไรด์ที่มาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถืออีกด้วย



จัดฟันเด็ก: เคลือบฟลูออไรด์วานิชดียังไง เหมาะกับเด็กวัยไหนบ้าง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/การจัดฟันเด็ก/