(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/patrangsit-thinprep-oct1.jpg)
การตรวจภายใน คือหนึ่งในขั้นตอนพื้นฐานและสำคัญที่สุดของการดูแลสุขภาพของผู้หญิง การตรวจนี้ไม่ใช่เพียงการยืนยันว่าเราไม่มีความผิดปกติ แต่เป็นมาตรการเชิงรุกที่ช่วยค้นหาความเสี่ยงและภาวะผิดปกติต่าง ๆ ได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งรวมถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และการประเมินสุขภาพของมดลูก รังไข่ และช่องคลอด อย่างไรก็ตาม แม้จะรู้ถึงความสำคัญ แต่ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยยังคงมีความรู้สึก กังวลใจ และ อับอาย จนทำให้ละเลยการนัดหมายแพทย์ ซึ่งเป็นการเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างใหญ่หลวง ความลังเลที่จะเข้ารับการตรวจมักมาจากความกลัวในสิ่งที่ไม่รู้ หรือความรู้สึกไม่สบายใจเมื่อต้องเปิดเผยส่วนที่อ่อนไหวของร่างกาย แต่เมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ได้รับ ความกังวลใจเหล่านี้ควรถูกจัดการอย่างจริงจัง การตัดสินใจเข้ารับการตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอ เป็นการให้ความสำคัญกับตัวเอง เหนือความรู้สึกไม่สบายใจเพียงชั่วครู่ มันคือการแสดงความรับผิดชอบต่อร่างกายและอนาคตของคุณเอง และเป็นก้าวสำคัญที่สุดในการมีชีวิตที่แข็งแรง ปราศจากความกังวลจากภัยร้ายที่สามารถป้องกันได้
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากมดลูกเป็นภัยเงียบที่ร้ายแรงต่อผู้หญิงทั่วโลก และเกือบทั้งหมดมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส Human Papillomavirus (HPV) การตรวจ Pap Smear คือเครื่องมือเดียวที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการตรวจหาเซลล์ผิดปกติก่อนที่จะพัฒนากลายเป็นมะเร็งเต็มรูปแบบ ตรวจมะเร็งปากมดลูกแบบ hpv (https://www.patrangsit.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81-thinprep/) หากตรวจพบได้ในระยะก่อนเป็นมะเร็ง อัตราการรักษาหายเกือบจะ 100% การตรวจเป็นประจำทุกปีหรือตามคำแนะนำของแพทย์จึงเป็นเหมือนการประกันชีวิตราคาถูกที่สุด การตรวจภายในช่วยให้แพทย์สามารถประเมินขนาดและรูปร่างของมดลูกและรังไข่ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการตรวจหาภาวะผิดปกติอื่น ๆ เช่น เนื้องอกในมดลูก ช็อกโกแลตซีสต์ หรือถุงน้ำในรังไข่ หากปล่อยให้โรคเหล่านี้ลุกลาม อาจนำไปสู่อาการปวดเรื้อรัง หรือมีผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ได้ การตรวจภายในยังช่วยให้แพทย์สามารถตรวจหาการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STIs), การติดเชื้อยีสต์ หรือภาวะช่องคลอดอักเสบจากแบคทีเรีย ซึ่งการรักษาอย่างรวดเร็วจะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวได้ ความกล้าไม่ได้หมายถึงการปราศจากความกลัว แต่หมายถึงการตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องแม้จะมีความกลัวอยู่ก็ตาม นี่คือแนวทางในการเตรียมตัว ก่อนการตรวจ ให้แจ้งความกังวลของคุณกับพยาบาลหรือแพทย์ หากคุณรู้สึกตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ แพทย์ที่ดีจะสามารถให้คำแนะนำและทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น การเลือกแพทย์เพศหญิงที่คุณไว้ใจก็อาจช่วยลดความอับอายลงได้ การรู้ว่าแพทย์จะทำอะไรบ้างในแต่ละขั้นตอน (เช่น การตรวจด้วยมือ การใช้เครื่องมือสเปกคูลัม) จะช่วยลดความรู้สึกกลัวจากสิ่งที่ไม่รู้ได้ หากไม่แน่ใจ ถามแพทย์ได้เลย การตรวจภายในในช่วงที่ไม่ได้มีประจำเดือนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่หากคุณเป็นคนไวต่อความเจ็บปวด ลองนัดหมายในช่วงที่คุณรู้สึกผ่อนคลายมากที่สุดของวัน ขณะตรวจ เมื่อรู้สึกตึงเครียด ให้พยายามหายใจเข้าออกลึกๆ และผ่อนคลายกล้ามเนื้อหน้าท้องและกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน การเกร็งตัวจะทำให้กระบวนการตรวจยากขึ้นและทำให้รู้สึกไม่สบายตัวมากขึ้น